อุปกรณ์รัดท่อคืออะไร? เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับงานติดตั้งของคุณ

Last updated: 10 พ.ย. 2568  |  44 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อุปกรณ์รัดท่อคืออะไร

งานระบบท่อในอาคาร โรงงาน หรือโครงสร้างอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นระบบน้ำ ระบบไฟ หรือระบบปรับอากาศ ล้วนต้องการ “อุปกรณ์รัดท่อ” เพื่อให้การติดตั้งมีความมั่นคง ปลอดภัย และรองรับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้เราจะมาดูกันอย่างละเอียดว่า อุปกรณ์รัดท่อคืออะไร, มีประเภทใดบ้าง, และควรเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับงานของคุณ เพื่อให้งานติดตั้งออกมาสมบูรณ์ที่สุด

อุปกรณ์รัดท่อคืออะไร

อุปกรณ์รัดท่อ (Pipe Clamp / Pipe Hanger / U-Bolt) คืออุปกรณ์ที่ใช้ “ยึดท่อให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ” ไม่ว่าจะเป็นการแขวนท่อจากเพดาน, ยึดท่อเข้ากับผนัง, หรือรองรับท่อในแนวราบ
อุปกรณ์เหล่านี้มีหลายรูปแบบ เช่น

  • แคล้มรัดท่อ (Pipe Clamp)
  • ยูโบลท์ (U-Bolt)
  • ไพพ์แฮงเกอร์ (Pipe Hanger)
  • สตัดเกลียว (Stud Rod)
  • บีมแคล้ม (Beam Clamp)

ซึ่งทั้งหมดนี้คืออุปกรณ์สำคัญในงานระบบ เช่น งานระบบน้ำ งานแอร์ งานไฟฟ้า และโครงสร้างเหล็กทั่วไป

ดูสินค้าประเภท อุปกรณ์รัดท่อ ทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ SRN Steel

ทำไมอุปกรณ์รัดท่อจึงสำคัญในงานระบบ

  • ช่วยให้ระบบท่อมีความมั่นคงและปลอดภัย ท่อทุกเส้นมีแรงดันจากของเหลวหรืออากาศภายใน เมื่อไม่มีอุปกรณ์ยึดที่เหมาะสม ท่ออาจขยับ หลุด หรือเกิดแรงดึงจนข้อต่อแตกได้ อุปกรณ์รัดท่อจึงทำหน้าที่ยึดท่อให้แน่นและอยู่ในแนวที่ถูกต้อง
  • ลดแรงสั่นสะเทือนและเสียงรบกวน ในระบบปรับอากาศ หรือท่อส่งของเหลวแรงดันสูง มักเกิดแรงสั่นสะเทือน อุปกรณ์รัดท่อที่มีแผ่นยางกันสั่น (Rubber Cushion) จะช่วยดูดซับแรงสะเทือนและลดเสียงได้ดี
  • ช่วยกระจายน้ำหนักท่อได้อย่างสมดุล โดยเฉพาะในอาคารสูงหรือโรงงานที่ต้องแขวนท่อยาว ๆ หลายเมตร อุปกรณ์รัดท่อที่ออกแบบถูกต้องจะช่วยกระจายน้ำหนักท่อไปยังโครงสร้างหลัก ป้องกันการโก่งงอหรือหลุดร่วง
  • เพิ่มอายุการใช้งานของระบบ เมื่อติดตั้งอุปกรณ์รัดท่อได้ถูกประเภทและตำแหน่ง จะช่วยลดการสึกหรอของข้อต่อ และทำให้ระบบท่อใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น

ประเภทของอุปกรณ์รัดท่อที่นิยมใช้

  1. แคล้มรัดท่อ (Pipe Clamp) ใช้รัดรอบท่อให้แน่นกับโครงสร้าง เช่น ผนังหรือพื้น มีทั้งแบบขาคู่, แบบหยดน้ำ, แบบประกับ และแบบยางกันสั่น เหมาะกับงานติดตั้งภายในอาคารทั่วไป
  2. ยูโบลท์ (U-Bolt) เป็นสลักรูปตัว U มีเกลียวที่ปลายทั้งสอง ใช้รัดท่อกับบีมหรือโครงเหล็ก นิยมในงานระบบอุตสาหกรรมที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น โรงงาน หรือโครงสร้างท่อเหล็กขนาดใหญ่
  3. ไพพ์แฮงเกอร์ (Pipe Hanger) อุปกรณ์แขวนท่อจากเพดาน ใช้ร่วมกับสตัดเกลียว เหมาะกับงานระบบแอร์, ระบบดับเพลิง, หรือระบบท่อที่อยู่เหนือศีรษะ
  4. บีมแคล้ม (Beam Clamp) ใช้ยึดอุปกรณ์รัดท่อเข้ากับคานเหล็กโดยไม่ต้องเชื่อม เหมาะสำหรับงานติดตั้งที่ต้องการความรวดเร็วและสามารถถอดประกอบได้ง่าย
  5. สตัดเกลียว (Threaded Rod / Stud Rod) ใช้เชื่อมต่อระหว่างเพดานกับแฮงเกอร์ หรือใช้เป็นส่วนประกอบในระบบแขวนท่อ มีทั้งเหล็กชุบซิงค์และสแตนเลส

วัสดุของอุปกรณ์รัดท่อที่ควรรู้

วัสดุของอุปกรณ์มีผลโดยตรงต่อความแข็งแรงและอายุการใช้งาน เช่น

  • เหล็กชุบซิงค์ (Galvanized Steel): ราคาประหยัด ป้องกันสนิมระดับทั่วไป เหมาะกับงานภายใน
  • สแตนเลส 304 / 316: ทนสนิมและสารเคมี เหมาะกับงานกลางแจ้ง โรงงานอาหาร หรือระบบที่มีความชื้น
  • เหล็กชุบกัลวาไนซ์หนา (Hot-Dip Galvanized): ทนการกัดกร่อนสูง ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก

หลักการเลือกใช้อุปกรณ์รัดท่อให้เหมาะกับงาน

  1. ดูขนาดท่อและน้ำหนักรวม ตรวจสอบขนาดท่อ (Nominal Diameter) และน้ำหนักของของเหลวภายใน เพื่อเลือกอุปกรณ์ที่รองรับได้พอดี ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป
  2. เลือกวัสดุตามสภาพแวดล้อม ถ้าเป็นพื้นที่ชื้นหรือกลางแจ้ง ควรเลือกวัสดุที่กันสนิม เช่น สแตนเลสหรือเหล็กชุบกัลวาไนซ์
  3. พิจารณารูปแบบการติดตั้ง
    • งานแขวนเพดาน → ใช้ไพพ์แฮงเกอร์ + สตัดเกลียว
    • งานยึดผนัง → ใช้แคล้มรัดท่อ
    • งานรัดกับบีม → ใช้ยูโบลท์หรือบีมแคล้ม
  4. ตรวจสอบมาตรฐานการผลิต เลือกสินค้าที่มีมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น ISO, มอก. หรือรับรองจากผู้ผลิต เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
  5. เลือกผู้จัดจำหน่ายที่เชื่อถือได้ เช่น SRN Steel ที่มีสต็อกแน่น พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ และสามารถผลิตตามแบบได้ตามความต้องการลูกค้า

ตัวอย่างการเลือกใช้งานในสถานการณ์จริง

สถานการณ์คำแนะนำ
ติดตั้งท่อแอร์ใต้เพดานอาคารสูง
ใช้ไพพ์แฮงเกอร์ร่วมกับสตัดเกลียวและแคล้มกันสั่น
ติดตั้งท่อประปาบนผนังบ้านพักอาศัยใช้แคล้มขาคู่หรือแคล้มประกับ เหล็กชุบซิงค์
ท่อส่งของเหลวกลางแจ้งหรือโรงงานเคมีใช้ยูโบลท์หรือแคล้มสแตนเลส 304 / 316 ทนสนิมสูง
ท่อเหล็กขนาดใหญ่ในโครงสร้างอุตสาหกรรมใช้ยูโบลท์พร้อมเพลทยึด และบีมแคล้มรับน้ำหนัก

 

ข้อควรระวังในการติดตั้งอุปกรณ์รัดท่อ

  • อย่าขันน็อตแน่นเกินไป เพราะอาจทำให้ท่อบิดหรือบุบ
  • ตรวจสอบตำแหน่งยึดให้รับน้ำหนักได้จริง
  • เว้นระยะการแขวนให้เหมาะสมตามมาตรฐาน (โดยทั่วไปทุก 2–3 เมตร)
  • ตรวจเช็กการคลายน็อตหรือการเกิดสนิมเป็นประจำ

คำถามที่พบบ่อย

Q1: อุปกรณ์รัดท่อใช้กับท่อ PVC ได้ไหม?
A: ใช้ได้ แต่ควรเลือกแคล้มรัดท่อที่มีแผ่นยางกันกระแทก เพื่อป้องกันการแตกหรือบิดของท่อ PVC


Q2: ถ้างานอยู่กลางแจ้งควรเลือกวัสดุอะไร?
A: ควรใช้สแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 เพื่อความทนทานต่อสนิมและรังสี UV


Q3: สามารถผลิตอุปกรณ์รัดท่อขนาดพิเศษได้ไหม?
A: ที่ SRN Steel สามารถผลิตตามแบบหรือขนาดพิเศษได้ตามความต้องการลูกค้า ทั้งเหล็กและสแตนเลส


Q4: ต้องใช้ช่างเฉพาะทางในการติดตั้งไหม?
A: ควรใช้ผู้ชำนาญด้านงานระบบ เนื่องจากการคำนวณระยะและแรงรับน้ำหนักต้องแม่นยำ เพื่อความปลอดภัยของโครงสร้าง

การเลือก อุปกรณ์รัดท่อ ให้เหมาะกับงาน ไม่เพียงช่วยให้การติดตั้งท่อสวยงามเป็นระเบียบ แต่ยังเพิ่มความแข็งแรง ปลอดภัย และลดปัญหาซ่อมบำรุงในระยะยาว หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์รัดท่อคุณภาพสำหรับงานระบบอาคารหรือโรงงาน ขอแนะนำ SRN Steel ศูนย์รวมอุปกรณ์งานระบบครบวงจร เช่น ยูโบลท์, แคล้มรัดท่อ, ไพพ์แฮงเกอร์, สตัดเกลียว และบีมแคล้ม พร้อมสต็อกแน่นและบริการจัดส่งทั่วประเทศ


ช่องทางการติดต่อ โทร : 083-009-4630, 080-116-6756
Line : @SRN.Steel
Facebook : อุปกรณ์งานระบบประปา วัสดุก่อสร้าง by SRN.Steel

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้